fbpx

“Café in Bloom” ดอกไม้ที่เหมาะกับร้านกาแฟและคาเฟ่สายมินิมอล

ในยุคที่ “คาเฟ่” ไม่ได้ขายแค่กาแฟ แต่ขาย “ความรู้สึก” และ “ภาพที่อยากโพสต์ลง IG” การตกแต่งร้านด้วย ดอกไม้สด กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ทรงพลังที่สุดของปี 2025 เพราะดอกไม้ไม่เพียงเพิ่มความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วย “เล่าเรื่องของแบรนด์” และ “เชื่อมโยงอารมณ์ของลูกค้า” ได้อย่างนุ่มนวล

วันนี้ Pearl Florist House จะพาไปเปิดเทรนด์ ดอกไม้สำหรับร้านกาแฟสายมินิมอล — ที่จะช่วยให้ร้านของคุณทั้ง “ดูแพง” และ “มีเอกลักษณ์” จนกลายเป็นจุดเช็กอินใหม่ที่ใครก็อยากมาถ่ายรูป

1. ทำไม “คาเฟ่” ควรมีดอกไม้?

ลองนึกถึงคาเฟ่ในความทรงจำของคุณสิ…
มักจะมีองค์ประกอบบางอย่างที่ตราตรึงใจ เช่น แสงอุ่นๆ เพลงเบาๆ และ “แจกันดอกไม้เล็กๆ” บนโต๊ะไม้

ดอกไม้คือสิ่งที่ทำให้ร้านกาแฟ มีชีวิต
และยังมีเหตุผลทางจิตวิทยาที่น่าสนใจว่า ทำไมลูกค้าจึงชอบร้านที่มีดอกไม้สดอยู่

  • ดอกไม้ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
    กลิ่นหอมอ่อนๆ และสีธรรมชาติของดอกไม้ช่วยลดความเครียดจากชีวิตเมือง

  • ช่วยให้ภาพถ่ายออกมาสวยขึ้น
    ไม่ว่าจะเป็นโทนขาว เบจ หรือนู้ด ดอกไม้สามารถเป็น prop ที่ขับให้รูปดู “ละมุน”

  • เพิ่มมูลค่าทางอารมณ์ของแบรนด์
    คาเฟ่ที่มีดอกไม้สด มักถูกมองว่ามีรสนิยม ดูอบอุ่น และดูใส่ใจในรายละเอียด

ดังนั้น ดอกไม้จึงไม่ได้เป็นเพียงของตกแต่ง แต่คือ “ภาษาที่ไร้คำพูดของแบรนด์” ที่สื่อถึงความตั้งใจได้ดีที่สุด

2. สไตล์ดอกไม้ยอดฮิตสำหรับคาเฟ่สายมินิมอล

คาเฟ่สไตล์มินิมอลเน้น “ความเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์”
ดอกไม้ที่เหมาะกับแนวนี้มักจะเน้นโทนธรรมชาติ กลีบเรียบ สีพาสเทล หรือสีอ่อนที่ไม่แย่งซีนเฟอร์นิเจอร์

2.1 Neutral Minimal

โทนที่ปลอดภัยและดูแพงตลอดกาล
เหมาะกับคาเฟ่โทนขาว ครีม หรือไม้ธรรมชาติ

ดอกไม้แนะนำ:

  • ดอก คาล่าลิลลี่สีขาว

  • ดอก ทิวลิปครีม

  • ใบ ยูคาลิปตัส / มอนสเตอร่า

  • ดอก Baby’s breath (ยิปโซ)

ฟีล: คลีน สงบ เรียบหรูแบบญี่ปุ่น

2.2 Cozy Nordic

เหมาะกับคาเฟ่แนวอบอุ่น มีแสงธรรมชาติ และเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน

ดอกไม้แนะนำ:

  • กุหลาบพีชอ่อน / เบจ

  • ลิสเซนทัส / ไฮเดรนเยียสีขาวครีม

  • ลิลลี่สีชมพูอ่อน

ฟีล: อบอุ่นแต่ไม่เลี่ยน ถ่ายรูปกับกาแฟหรือเบเกอรี่ขึ้นกล้องมาก

2.3 Modern Vintage

สำหรับคาเฟ่ที่มีความวินเทจนิดๆ มีเฟอร์นิเจอร์ทองเหลืองหรือผ้าลูกไม้

ดอกไม้แนะนำ:

  • กุหลาบแดงก่ำ

  • คาเนชั่นสีครีมผสมไวน์แดง

  • ลาเวนเดอร์

  • ดอกพีโอนี

ฟีล: หรูแต่ละมุน สไตล์ “café in Paris” ที่คนชอบถ่ายรูปลง IG

3. จัดวางตรงไหนดีให้ร้านดูแพงและไม่รก

การวางดอกไม้ในร้านกาแฟต้องใช้ “ศาสตร์และศิลป์” พอๆ กับการออกแบบแสง เพราะหากจัดผิดมุม ร้านอาจดูรกหรือแย่งซีนกาแฟได้

ฟลอริสต์จาก Pearl Florist House แนะนำ 5 มุมทองคำที่ควรมีดอกไม้

มุม เหตุผล ดอกไม้แนะนำ
เคาน์เตอร์บาร์ จุดที่ลูกค้าเห็นก่อนสั่งกาแฟ กุหลาบขาว, Baby’s breath
โต๊ะมุมถ่ายรูป จุดสร้างไวรัล ทิวลิปพาสเทล, ไฮเดรนเยีย
โต๊ะกลางร้าน จุดสมดุลของบรรยากาศ ลิลลี่ขาว, ยูคาลิปตัส
มุมหน้าร้าน สร้างแรงดึงดูดสายตา ดอกไม้ประจำฤดู เช่น ทานตะวัน
ห้องน้ำ / ทางเดิน เพิ่มความนุ่มนวล ดอกลาเวนเดอร์ หรือใบไม้แห้งจัดเซต

Tip: ใช้แจกันทรงเตี้ยหรือทรงขวดแก้วใส จะช่วยให้ร้านดูโล่ง โปร่ง และเข้ากับแสงธรรมชาติ

4. โทนสีดอกไม้ที่ “ถ่ายรูปขึ้นกล้อง” ที่สุด

ในยุคที่ภาพคือทุกอย่าง ดอกไม้ที่เลือกต้อง “ขึ้นกล้อง”
เพราะภาพถ่ายของลูกค้าคือเครื่องมือโปรโมทร้านฟรีที่ทรงพลังที่สุด

โทนสี ความรู้สึกที่สื่อ เหมาะกับคาเฟ่แบบไหน
ขาว – ครีม – เบจ คลีน เรียบหรู ดูแพง คาเฟ่ญี่ปุ่น / มินิมอล
พีช – โรสโกลด์ อบอุ่น โรแมนติก คาเฟ่แนวโฮมมี่
ฟ้า – เขียวมิ้นต์ สดชื่น นุ่มนวล คาเฟ่แนวธรรมชาติ / glasshouse
ม่วงลาเวนเดอร์ หรู หวาน ลึกลับ คาเฟ่แนววินเทจ / คอนเซ็ปต์อาร์ต

5. ดอกไม้แห้งหรือดอกไม้สด แบบไหนดีกว่ากัน?

ดอกไม้แห้งอาจดูคงทนกว่า แต่ “กลิ่นและพลังชีวิต” ของดอกไม้สดยังคงเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า

เปรียบเทียบง่ายๆ:

ประเภท ข้อดี ข้อเสีย
ดอกไม้สด สดชื่น มีกลิ่นหอม ดูจริง เหี่ยวเร็ว ต้องเปลี่ยนน้ำ
ดอกไม้แห้ง อยู่ได้นาน ไม่ต้องดูแล สีซีด ไม่มีกลิ่นธรรมชาติ
ผสมทั้งสองแบบ มีบาลานซ์ของความสด + ทน ต้องออกแบบให้กลมกลืน

ฟลอริสต์แนะนำให้เลือกใช้ “แบบผสม” เช่น ดอกไม้สด 70% + แห้ง 30% จะให้ฟีลอบอุ่นแต่ดูไม่เศร้า

6. กลยุทธ์ “ดอกไม้สร้างแบรนด์” สำหรับร้านกาแฟ

นี่คือความลับที่หลายคาเฟ่ระดับพรีเมียมใช้กัน

ดอกไม้ = อัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Signature)

  • คาเฟ่สีเบจ ใช้ “ยิปโซ” และ “ยูคาลิปตัส” → ดูเรียบและแพง

  • คาเฟ่แนวคราฟต์ ใช้ “ทานตะวัน” → สดใส มีชีวิตชีวา

  • คาเฟ่หรูแนวผู้หญิง ใช้ “กุหลาบลาเวนเดอร์” → โรแมนติกแต่ไม่เลี่ยน

Tip จาก Pearl Florist House:

หากร้านมีโลโก้หรือธีมสีประจำร้าน ควรเลือกดอกไม้ที่เข้ากับสีเหล่านั้น เพราะลูกค้าจะจดจำ “บรรยากาศของแบรนด์” ได้ง่ายขึ้น

7. ถ่ายรูปยังไงให้ดอกไม้ในร้านดูแพง

เคล็ดลับเล็กๆ จากช่างภาพสายคาเฟ่:

  1. ถ่ายตอน แสงเช้า (8.00–10.00 น.) หรือ บ่ายอ่อน (16.00 น.)

  2. ใช้ ฉากหลังไม้หรือผนังปูนเปลือย เพื่อให้ดอกไม้เด่น

  3. ถ่ายในมุม Top View หรือ 45 องศาให้เห็นพื้นผิวโต๊ะกับกาแฟ

  4. หากมีแจกันแก้ว ควรจัดให้มี “แสงสะท้อน” บางจุดเพื่อให้ภาพดูมีมิติ

แค่นี้ก็สามารถเปลี่ยนร้านเล็กๆ ให้ดูเหมือนคาเฟ่ญี่ปุ่นใน Pinterest ได้แล้ว

8. บริการ “Flower Styling for Café” จาก Pearl Florist House

ถ้าคุณเป็นเจ้าของร้านกาแฟที่อยากให้ร้านดูสวย น่าถ่ายรูป แต่ไม่มีเวลาออกแบบเอง
Pearl Florist House มีบริการ จัดดอกไม้สำหรับคาเฟ่โดยเฉพาะ

ออกแบบโทนสีและดอกไม้ให้เข้ากับ mood & tone ของร้าน
เปลี่ยนดอกไม้ให้สดใหม่ทุกสัปดาห์
มีทั้งแบบรายเดือนและรายฤดูกาล
จัดวางพร้อม props ถ่ายรูปได้จริง

เพราะเราเชื่อว่า “คาเฟ่ที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้” คือคาเฟ่ที่คนอยากกลับมาอีกครั้ง

สรุป: ดอกไม้คือหัวใจของคาเฟ่ที่มีชีวิต

คาเฟ่ไม่ได้ขายแค่กาแฟ แต่ขาย “ความรู้สึกดีๆ ที่อยากกลับมาอีก”
และดอกไม้คือองค์ประกอบเล็กๆ ที่สร้างความรู้สึกนั้นได้ดีที่สุด

หากคุณอยากให้ร้านกาแฟของคุณกลายเป็นที่จดจำในทุกมุมถ่ายรูป
ลองเริ่มจาก แจกันดอกไม้เล็กๆ จาก Pearl Florist House
เพราะความละมุนเพียงช่อเดียว… อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “ภาพไวรัล” ที่ทำให้คนทั้งเมืองรู้จักร้านของคุณ